ตร.อินเดียจับ 9 คนเอี่ยวโศกนาฏกรรมสะพานขาด

ตร.อินเดียจับ 9 คนเอี่ยวโศกนาฏกรรมสะพานขาด ข้องใจบริษัทรับเหมาซ่อมสะพาน

ตำรวจอินเดียจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คนเกี่ยวข้องเหตุโศกนาฏกรรมสะพานแขวนถล่มที่คร่าชีวิตประชาชน 141 ศพ หลายฝั่งตั้งข้อสงสัยเหตุใดจ้าง บ.ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ามาดำเนินการรับเหมาซ่อมสะพาน

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2565 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า จากเหตุโศกนาฏกรรมสะพานแขวนถล่มในเมืองมอร์บี รัฐคุชราต ของอินเดีย ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 141 ศพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจรัฐคุชราต เปิดเผยว่าได้จับกุมตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ จำนวน 9 คน ทั้งหมดเป็นพนักงานของบริษัท “โอเรวา กรุ๊ป” (Oreva Group) ผู้รับผิดชอบโครงการซ่อมแซมสะพานแห่งนี้และดำเนินการเปิดให้คนเข้าชม

นายอโศก กุมาร ยาเทฟ ตำรวจอาวุโสเปิดเผยว่า การสอบสวนคดีนี้น่าจะเป็นคดีทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่มีเจตนา มากกว่าคดีฆาตกรรม ขณะที่ในบรรดาผู้ถูกจับกุมตัวทั้ง 9 คนนี้ เป็นผู้จัดการบริษัท 2 คน อีก 2 คนเป็นเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วขึ้นชมสะพาน อีก 2 คนเป็นช่างรับเหมา และอีก 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ดูแลสะพาน

สำหรับบริษัทโอเรวา กรุ๊ป เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า และโทรทัศน์ เป็นผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ และผลิตจักรยานพลังงานแบตเตอรี่ ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า เหตุใดบริษัทนี้จึงได้สัญญารับเหมาซ่อมแซมสะพานและเป็นผู้ดำเนินการเปิดให้คนเข้าชม นอกจากนี้ยังเกิดคำถามว่า ทางบริษัทได้มีการทดสอบความแข็งแรงของสะพานก่อนเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง หรือไม่

ทั้งนี้ สะพานแห่งนี้มีความยาว 230 เมตร มีอายุเก่าแก่ก่อสร้างมาแล้วกว่า 140 ปี ตั้งแต่สมัยยุคอาณานิคม และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยก่อนหน้านี้สะพานได้ปิดซ่อมแซมชั่วคราวเป็นเวลา 6 เดือน และเพิ่งเปิดให้ประชาชนขึ้นไปชมวิวบนสะพานได้อีกครั้งเมื่อไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุ

ก่อนหน้านี้โฆษกของบริษัทโอเรวา กรุ๊ป เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์อินเดียน เอ็กซ์เพรสว่า ตอนนี้บริษัทกำลังรอข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่เบื้องต้นพบว่า ขณะเกิดเหตุมีคนขึ้นไปบนสะพานมากเกินไป และมีคนพยายามขย่มและโยกให้สะพานให้แกว่งไปมา

ขณะที่การกู้ภัยทางน้ำค้นหาผู้รอดชีวิตกลางแม่น้ำมัจฉุ ยังดำเนินต่อไปท่ามกลางความหวังริบหรี่ ก่อนหน้านี้สามารถช่วยขึ้นมาจากน้ำได้อย่างปลอดภัย 177 คน ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า ในวันนี้จะดำเนินการระบายน้ำออกจากเขื่อนที่อยู่บริเวณปลายน้ำ เพื่อหาว่ามีร่างผู้เสียชีวิตลอยมาติดบริเวณนั้นหรือไม่.